กิจกรรม

มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย มอบสิ่งของพระราชทาน ช่วยเหลือผู้ประภัยน้ำท่วม ในพื้นที่อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช

          มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย มอบสิ่งของพระราชทาน ช่วยเหลือผู้ประภัยน้ำท่วม ในพื้นที่อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช
          วันนี้ (5 มกราคม 2564) สมเด็จพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ และ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงห่วงใยราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จึงทรงพระกรุณาโปรดให้นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีมอบสิ่งของพระราชทาน มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ณ หอประชุมโรงเรียนเกาะขันธ์ประชาภิบาล หมู่ที่ 2 ตำบลเกาะขันธ์ อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมี นายอำเภอชะอวด กล่าวรายงานถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระรูปพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงห่วงใยราษฎรผู้ประสบอุทกภัย
โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย นางอนุรี วิศิษฏ์วงศ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช นายสนั่น สนธิเมือง ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช นายจรัญ อินทสระ พัฒนาการจังหวัดนครศรีธรรมราช และคณะ ทำพิธีมอบถุงยังชีพพระราชทานถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 5 รูป และทำพิธีมอบถุงยังชีพพระราชทานให้แก่ตัวแทนราษฎร จำนวน 50 ชุด เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน อีกทั้งยังเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้เข้มแข็งแก่ผู้ประสบอุทกภัย จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และคณะ เชิญสิ่งของพระราชทาน ไปมอบแก่ผู้ป่วยติดเตียงที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ให้แก่นางถวิล ไชยแก้ว อายุ 67 ปี ที่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 10 ตำบลเกาะขันธ์ อำเภอชะอวด ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง มีอาการป่วยต่อเนื่องมา 10 ปี มีสามีและลูก ๆ คอยดูแล
สำหรับสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน – 6 ธันวาคม 2563 ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบทั้ง 23 อำเภอ 165 ตำบล 1552 หมู่บ้าน 128 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,077,015 คน 372,693 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 23 ราย ที่อยู่อาศัยบ้านพักเสียหายบางส่วน 4,216 หลัง เสียหายทั้งหลัง 22 หลัง ความเสียหายด้านการเกษตรได้รับผลกระทบ ด้านพืช 123,436 ครัวเรือน ด้านประมง 6,863 ราย และด้านปศุสัตว์ 76,707 ราย ขณะนี้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว




ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *